การจับตาผลิตภัณฑ์สุดฮอตที่จะร้อนแรงตลอดปี 2553 น่าจะเป็นบทพิสูจน์ของเทรนด์ตัวจริงที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแฟชั่นเท่านั้น แต่น่าที่จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องแข่งขันกันอย่างรุนแรง และเชื่อแน่ว่าจะทำให้ตลาดไอทีของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบมโหฬารด้วย
10 โปรดักส์ที่กำลังจะกลายเป็นเทรนด์ของโลกไอทีนี้ถูกรวบรวมโดย ‘ประสิทธิ์ วรฉัตราวณิช’ รองผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายนิวมีเดีย บริษัท เอ.อาร์.อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด (AriP)
เน็ตบุ๊กไม่ตายแต่โต
แม้ว่าปีที่ผ่านมาคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กหรือพีซีพกพาตัวเล็กราคา ประหยัด สามารถเติบโตได้เพราะเศรษฐกิจไม่ดี แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในปี 2010 ตลาดเน็ตบุ๊กก็จะยังเติบโตอยู่ แต่อาจไม่โตแบบพุ่งพรวดเพราะมีคู่แข่ง
สิ่งที่ชี้ว่าเน็ตบุ๊กจะยังเติบโตต่อไปคือการที่อินเทลเปิดตัวชิป Atom รุ่นใหม่นาม n450 ทำให้เน็ตบุ๊กมีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถรองรับภาพยนตร์ความละเอียดสูงหรือ HD ได้แต่ยังไม่เต็มขั้น มีขนาดบางลง ในราคาสบายกระเป๋า แต่สิ่งที่ชี้ว่าเน็ตบุ๊กจะไม่แรงจนเติบโตมากมายคืออินเทลนั้นระบุ ว่า ชิป n450 นั้นไม่ได้ผลิตมาสำหรับเน็ตบุ๊กอย่างเดียว แต่สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์แล็ปทอปอื่นๆได้ด้วย ทำให้แล็ปทอปรุ่นอื่นสามารถลดราคาลงเพื่อแข่งกับเน็ตบุ๊กได้อย่างถึงพริกถึง ขิง
สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ประหยัดพลังงานพิเศษ หรือ CULV เชื่อว่าจะเติบโตไม่รุนแรงในปี 2010 เพราะผู้ผลิตพีซีจะกดราคาเน็ตบุ๊กลงมาแย่งตลาด โดย CULV อาจครองส่วนแบ่งได้ 30% ในปีเสือ อีกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีเสือ คือผู้บริโภคจะสับสนเรื่องสายผลิตภัณฑ์พีซีพกพามากขึ้นอีก เนื่องจากการกำเนิดของ ‘สมาร์ทบุ๊ก (Smartbook)’ คอมพิวเตอร์ตัวเล็กเท่าเน็ตบุ๊ก (หน้าจอไม่เกิน 10 นิ้ว) แต่ใช้ชิป ARM ซึ่งนิยมใช้ในสมาร์ทโฟน รองรับไว-ไฟ และ 3G ต่ออินเทอร์เน็ตได้ บนราคาที่ถูกกว่าเน็ตบุ๊ก
จากภาพที่มองว่าเน็ตบุ๊กใกล้จะสิ้นชีพในปี 2009 แท้จริงแล้วยังไม่แน่นอน เพราะต้องลุ้นผลการต่อสู้ระหว่างเน็ตบุ๊กกับโน้ตบุ๊ก CULV สมาร์ทบุ๊ก สมาร์ทโฟน และที่สำคัญคือ คอมพิวเตอร์แท็บเลตที่เชื่อว่าจะเป็นกระแสแรงมากในปี 2010
แท็บเลตจะพุ่งแรง
แท็บเลตพีซีคือคอมพิวเตอร์พกพาที่พับหน้าจอได้ แล้วนำหน้าจอสัมผัสมาติดไว้แทนที่คีย์บอร์ด น้ำหนักเบา หน้าจอราว 7-10 นิ้ว ขณะนี้สินค้ากลุ่มแท็บเลตพีซีเริ่มออกมาวางจำหน่ายอย่างจริงจังแล้ว และได้กระแสตอบรับมากมาย
นักวิเคราะห์เชื่อว่าพีซีพกพาแต่ละชนิดจะแข่งขันอย่างหนักในปี 2010 แต่ประเด็นที่จะยังเป็นคำถามสำหรับแท็บเลตพีซีคือความเชื่อว่า ผู้บริโภคยังไม่ต้องการแท็บเลตพีซี เพราะประสิทธิภาพที่ไม่หนีจาก CULV เครื่องอ่านอีบุ๊ก และเน็ตบุ๊ก แถมราคาก็ยังอยู่ในระดับที่แข่งขันไม่ได้
อีบุ๊ก กระแสที่เกิดขึ้น
ปี 2010 ถูกมองว่าจะเป็นปีแห่งสงครามดิสเพลย์ หนึ่งในผู้ร่วมชิงชัยคือเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรืออีรีดเดอร์ (eReader) เชื่อว่ายอดขายอีรีดเดอร์จะทะลุ 6 ล้านเครื่องในปี 2010 บนฝีมือการผลิตของบริษัทไม่ต่ำกว่า 30 แบรนด์ แต่ละแบรนด์มีจำนวนมากกว่า 1 รุ่น
จุดเด่นของอีรีดเดอร์นั้นอยู่ที่การประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับการแสดงผลตำรา อ่านง่าย รองรับไฟล์เอกสารได้หลากหลาย ล่าสุดมีรายงานว่าโรงงานผลิตหน้าจอในประเทศไต้หวันลงมือผลิตจออีอิงก์ชนิด ใหม่ที่มีราคาถูกลง ทำให้เชื่อว่าอุปกรณ์อีรีดเดอร์ทั้งหลายจะมีราคา 99 เหรียญในปีหน้า จากที่ปัจจุบันมีราคาราว 259 เหรียญ
กระแสอีรีดเดอร์ยังปรากฏในอุปกรณ์อื่นๆด้วย นั่นคือโปรแกรมอีรีดเดอร์บนอุปกรณ์พกพาที่ผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดไปติด ตั้งได้ เช่น โปรแกรมคินเดิลฟอร์ไอโฟน เป็นต้น ซึ่งเมื่อสังเกตให้ดีจะพบว่าแพลตฟอร์มอุปกรณ์ แอปพลิเคชั่น และอินฟราสตรักเจอร์ คือพื้นฐานที่สอดคล้องกันของ Gadget ในปี 2010
วินโดวส์เซเว่นมาแน่
ไอดีซีเชื่อว่าปี 2010 ผู้ใช้วินโดวส์เซเว่นจะเติบโตรวดเร็วมากจนมีสัดส่วน 50% เมื่อเทียบกับผู้ใช้ทั่วโลก วินโดวส์เซเว่นจึงเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่จะมาแน่นอนในปี 2010
แม้จะมีการใช้งานวินโดวส์เซเว่นแพร่หลาย แต่ปี 2010 จะเป็นปีที่หลายบริษัทพร้อมใจกันออกบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่มีแนวคิดหลักว่าผู้ใช้จะเก็บข้อมูลไว้ที่ใดก็ได้ ใช้ข้อมูลได้ไม่สิ้นสุด และสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเวลา ปี 2010 จึงเชื่อว่าพฤติกรรมการใช้ซอฟต์แวร์ในเครื่องคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนแปลง ชัดเจนยิ่งขึ้นในปีนี้ จากการติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในเครื่อง มาเป็นการเรียกใช้ซอฟต์แวร์จากอินเทอร์เน็ตแทน
ไมโครซอฟท์จึงต้องรับศึกการต่อสู้ระหว่างโลกเดสก์ทอปและโลกอิน เทอร์เน็ต ด้วยการเปิดตัวบริการ Azure (อะซัวร์) บริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่อาจจะร่วมเป็นอีกแรงเพื่อสะกดผู้บริโภคในปี 2010
คู่ต่อสู้ตัวแม่ของไมโครซอฟท์ในปีนี้หนีไม่พ้นกูเกิล ที่กำลังจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการออนไลน์ของตัวเองในชื่อ ChromeOS กูเกิลระบุว่าโอเอสของตัวเองสามารถทำงานได้ดีบนคอมพิวเตอร์พกพาทั้งเน็ตบุ๊ก และแท็บเลตพีซี เท่ากับกูเกิลขอมีเอี่ยวในกระแสคอมพ์พกพาที่เชื่อว่าจะเชี่ยวกรากในปี 2010 อย่างเต็มตัว
ทีวีอินเทอร์เน็ตสร้างอาณาจักร
ตลาดทีวีอินเทอร์เน็ตในปี 2010 เชื่อว่าจะมีความคึกคักสุดขีด เพราะนอกจากความสะดวกสบายจากการเล่นอินเทอร์เน็ตบนทีวีจอยักษ์ การตอบโจทย์เรื่องข่าวอัปเดตล่าสุดจากสถานีข่าวในประเทศไทย (เนชั่นจับมือกับซัมซุง) วิดเจ็ตสารพัดประโยชน์บนหน้าจอทีวี และตัวคอนเทนต์วิดีโอบนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย ไม่ต่างจากคอนเทนต์บนทีวี ล้วนเสริมบารมีให้ทีวีอินเทอร์เน็ตเติบโตในปี 2010 อย่างต่อเนื่อง
เครือข่ายสังคมเฟื่องฟูยิ่งขึ้น
เมื่อทุกอุปกรณ์ไอทีในปี 2010 ล้วนมีฟังก์ชั่นเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตยืนพื้น การขยายตัวของโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือเครือข่ายสังคมจึงเป็นเรื่องที่หนีไม่ พ้น เพราะเมื่ออินเทอร์เน็ตพร้อมเท่าไหร่ ผู้บริโภคก็พร้อมจะอัปเดตคอนเทนต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเท่านั้น ที่สำคัญ คอนเทนต์ที่เติบโตรวดเร็วจะมีผลต่อเสิร์ชเอ็นจิ้นหรือระบบค้นหาข้อมูลออ นไลน์ในปี 2010 ด้วย เนื่องจากเสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่อย่างกูเกิลและบิง ประกาศจับมือกับเครือข่ายสังคมทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เพื่อให้ชาวออนไลน์สา มารถเสิร์ชพบข้อมูลอัปเดตนาทีต่อนาทีในเครือข่ายสังคมได้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรียลไทม์เสิร์ชในอนาคต
ไฮสปีดเพิ่มสปีด
ทิศทางอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงนั้นมาแรงมากในปี 2010 สถิติผู้ใช้บรอดแบนด์ในประเทศไทยขณะนี้มีจำนวนมากกว่า 2 ล้านรายแล้ว คาดว่าจะมีอัตราขยายตัวเกิน 3 ล้านรายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดในประเทศไทยขณะนี้คือ 30Mbps
เมื่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแพร่หลาย สิ่งที่จะเกิดคือความนิยมเรื่องไฟล์แชริ่ง โดยเฉพาะการโหลดบิต ขณะเดียวกัน ภัยออนไลน์ทั้งภัยบ็อตเน็ตและหนอนคอมพิวเตอร์ก็จะหนักขึ้นด้วย โดยในปี 2010 เชื่อกันว่าโปรแกรมที่ให้ผู้บริโภคสร้างมัลแวร์เองจะได้รับความนิยมแพร่หลาย มากขึ้น รวมถึงภัยเมลหลอกลวงให้ช่วยเหลือสังคม และภัยคุกคามบนอุปกรณ์เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เช่น ไอโฟน ก็เชื่อว่าจะมีความเสียหายหนักกว่าเดิม
โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะช่วยกระตุ้นตลาดสมาร์ทโฟนทั้งแอ นดรอยด์ และไอโฟน แต่ก็จะกระตุ้นให้มีการขโมยทรัพยากรเครือข่ายมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ไวรัสบนเครือข่าย, ไวรัสบนวินโดวส์เซเว่น และไวรัสบนแมคอินทอชก็คาดว่าจะวาดลวดลายหนักข้อขึ้นในปี 2010
สมาร์ทโฟนดุเดือด
สมาร์ทโฟนในปี 2010 จะแข่งขันดุเดือดกว่าทุกปีที่ผ่านมา มีการคำนวณว่าสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ไม่ต่ำกว่า 50 เครื่องจะพากันแจ้งเกิดในปี 2010 พร้อมกับมีข่าวลือว่าไอโฟนรุ่น 4G จะแจ้งเกิดในเดือนกรกฎาคม 2010 โดยปรับให้มีกล้องดิจิตอลด้านหน้า พร้อมหน้าจอสว่างกว่าเดิม กล้อง 5.2 ล้านพิกเซล รองรับบลูทูธ
เมื่อแอนดรอยด์และไอโฟนมาแรง ยักษ์ใหญ่โนเกียจะออกหัวออกก้อยอย่างไรต่อไป เป็นอีกเรื่องที่โลกต้องลุ้นกันในปี 2010 ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ก็ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าวินโดวส์โมบาย 7 จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ปี 2010 ความล่าช้าที่เกิดขึ้นย่อมมีผลต่อการทำตลาดของไมโครซอฟท์ด้วย
ของจริง 3G ยังไม่เห็น
ขณะนี้ผู้บริโภคชาวไทยบางส่วนเริ่มได้เห็นบริการอินเทอร์เน็ต 3G จากโอเปอเรเตอร์บางค่ายแล้ว คาดว่าจะได้เห็นบริการเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2010 อย่างไรก็ตาม บริการประเภท Real 3G หรือบริการ 3G แบบของแท้บนคลื่นความถี่ 2100 MHz นั้นจะเกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ทันปลายปี 2010 แน่นอน เนื่องจากโอเปอเรเตอร์จะต้องใช้เวลาติดตั้งระบบอย่างน้อย 6 เดือนหลังได้รับใบอนุญาตหรือไลเซนส์ 3G ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงกำหนดการอนุมัติไลเซนส์อย่างเป็นทางการ
โลกใหม่เอ็มคอมเมิร์ซ
เอ็มคอมเมิร์ซ หรือ M-Banking บริการการเงินบนโทรศัพท์มือถือนั้นถูกมองว่าเป็นเทรนด์แรงของโลกในทุกๆปี แต่กลับไม่มีอิทธิพลเท่าที่ควรในประเทศไทยตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้ทุกธนาคารจะมีให้บริการแล้ว แต่สิ่งที่ยังขาดอยู่เสมอคือความมั่นใจของผู้บริโภค และพฤติกรรมการซื้อของคนไทยที่ไม่เอื้ออำนวย ฉะนั้น ความชัดเจนว่ากระแสอินเทอร์เน็ตร้อนแรงในปี 2010 จะช่วยกระตุ้นให้บริการการเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เติบโตยิ่งขึ้น จึงถูกสั่นคลอนเพราะความไม่มั่นใจของผู้บริโภค เอ็มคอมเมิร์ซในปีนี้จึงยังไม่มีทิศทางชัดเจนว่าจะมีอิทธิพลเพิ่มขึ้นมาก น้อยเพียงใด
ที่มาของบทความ http://www.wiseknow.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น